ปรับปรุงเมื่อวันที่ 29 กันยายน 2566
บริษัท เทนเซ็นต์ (ประเทศไทย) จำกัด (ซึ่งต่อไปนี้เรียกว่า “เทนเซ็นต์” หรือ “เรา”) ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงาน บุคลากร และบุคคลในครอบครัว (ซึ่งต่อไปนี้เรียกรวมกันว่า “ท่าน”) และเพื่อให้ท่านมั่นใจได้ว่าเราจะให้ความคุ้มครองและปฏิบัติต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (ซึ่งต่อไปนี้เรียกว่า “กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”) เราจึงได้กำหนดนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ขึ้น โดยนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้จะอธิบายว่าเราใช้ข้อมูลส่วนบุคคลที่เราได้มาจากท่านอย่างไร และเพื่อแจ้งสิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ เพื่อให้ท่านทราบรายละเอียดดังกล่าวอย่างครบถ้วนตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด เทนเซ็นต์ ขอแนะนำให้ท่านอ่าน และทำความเข้าใจถึงข้อกำหนดต่างๆ ภายใต้นโยบายฯ ฉบับนี้อย่างละเอียด
บริษัทในเครือบริษัท เทนเซ็นต์ (ประเทศไทย) จำกัด หมายถึงนิติบุคคลใดหรือหลายนิติบุคคล ดังต่อไปนี้
- บริษัท เทนเซ็นต์ ออนไลน์ (ประเทศไทย) จำกัด
- บริษัท เว็บสเปซ จำกัด
- บริษัท เอ็มเว็บ พอร์ทัล (ประเทศไทย) จำกัด
- บริษัท เลเวลอัพ ออนไลน์ จำกัด
- บริษัท ท้อปสเปซ (ประเทศไทย) จำกัด
- บริษัท วีแชท (ประเทศไทย) จำกัด
1. คำนิยาม
ข้อมูลส่วนบุคคล | ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรม |
ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล | เทนเซ็นต์ ซึ่งเป็นผู้มีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล |
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล | บุคคลซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ได้แก่ พนักงาน บุคลากร และบุคคลในครอบครัว ซึ่งต่อไปในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้จะเรียกว่า “ท่าน” |
ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล | บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามของเทนเซ็นต์ |
บุคคล | บุคคลธรรมดา |
ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว |
ข้อมูลที่เป็นเรื่องส่วนบุคคลโดยแท้ของบุคคลแต่มีความละเอียดอ่อนและอาจสุ่มเสี่ยงในการเลือกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม เช่น เชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดที่กระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด |
2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่ประมวลผล วัตถุประสงค์ และฐานทางกฎหมาย
- เทนเซ็นต์จะทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งให้ท่านทราบไว้ก่อนหรือในขณะเก็บรวบรวม
- เทนเซ็นต์จะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากท่านโดยตรง ในกรณีที่เก็บรวบรวมจากแหล่งอื่น เทนเซ็นต์จะปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเคร่งครัด
- ท่านต้องให้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายหรือสัญญาหรือมีความจำเป็นต้องให้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อเข้าทำสัญญา การไม่ให้ข้อมูลอาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินการดังกล่าว
|
|
การปฏิบัติตามสัญญา (Contractual Basis) การปฏิบัติตามกฎหมาย (Legal Obligation) ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate interests) ความยินยอม ในกรณีที่มีการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว (Consent basis) |
ข้อมูลเกี่ยวกับหน้าบัญชีธนาคาร ได้แก่ข้อมูลที่เกี่ยวกับ ชื่อบัญชี เลขบัญชี ชื่อธนาคาร สาขา | เพื่อประโยชน์ในการบริหารการจ่ายเงินเดือน ค่าตอบแทน หรือสิทธิประโยชน์อื่นใดให้แก่พนักงาน บุคลากรของบริษัทตามสัญญาจ้างแรงงาน | การปฏิบัติตามสัญญา (Contractual Basis) |
ข้อมูลการติดต่อที่พนักงาน บุคลากรได้ยื่นในกระบวนการยื่นคำขอเบิกค่ารักษาพยาบาล ได้แก่ ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ โรคที่พนักงานรับการรักษา | ดำเนินการตามคำขอเบิกค่ารักษาพยาบาลพิจารณาอนุมัติการให้ค่ารักษาพยาบาลที่เกี่ยวกับสวัสดิการการรักษาพยาบาล |
การปฏิบัติตามสัญญา (Contractual Basis) การปฏิบัติตามกฎหมาย (Legal Obligation) |
ข้อมูลสุขภาพ ข้อมูลความพิการ ข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับการเจ็บป่วยและรายละเอียดเกี่ยวกับการรักษาและค่าใช้จ่าย ข้อมูลเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล ข้อมูลประกันสุขภาพ ประกันชีวิตข้อมูลเกี่ยวกับอุบัติเหตุหรืออันตราย ข้อมูลประวัติการผ่าตัดที่สำคัญ โรคประจำตัว โรคทางพันธุกรรม ข้อมูลผลการตรวจสุขภาพ (หมู่เลือดและผลการตรวจเลือดต่างๆ) |
|
การปฏิบัติตามสัญญา (Contractual Basis) ความยินยอม (Consent basis) |
ข้อมูลสุขภาพเกี่ยวกับความเจ็บป่วย และการประสบอันตรายของพนักงาน บุคลากรของเทนเซ็นต์ อันเนื่องมาจากการทำงาน | เพื่อส่งตัวพนักงาน บุคลากร เข้ารับการรักษาพยาบาล จากการเจ็บป่วย และประสบอันตรายตามกฎหมายว่าด้วยกฎหมายกองทุนเงินทดแทน |
การปฏิบัติตามกฎหมาย (Legal Obligation) |
ข้อมูลการเจ็บป่วยที่ปรากฏในใบรับรองแพทย์ |
|
การปฏิบัติตามกฎหมาย (Legal Obligation) |
ข้อมูลศาสนา/ข้อมูลการแพ้อาหาร | เพื่อการบริหารจัดการด้านสุขอนามัย ด้านสวัสดิการอาหารกลางวัน |
การปฏิบัติตามสัญญา (Contractual Basis) ความยินยอม (Consent basis) |
ข้อมูลเกี่ยวกับหมายเลขบัตรประกันสังคม/สำเนาบัตรประกันสังคม ได้แก่ หมายเลขบัตรประกันสังคม | ขึ้นทะเบียนประกันตน/การจ่ายเงินสมทบตามกฎหมายว่าด้วยประกันสังคม | การปฏิบัติตามกฎหมาย (Legal Obligation) |
ข้อมูลเกี่ยวกับหมายเลขบัตรประจำตัวผู้เสียภาษี/สำเนาบัตรประจำตัวผู้เสียภาษี ได้แก่ หมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษี | เพื่อทำการหักภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และนำส่งกรมสรรพากรตามกฎหมายว่าด้วยภาษีอากร | การปฏิบัติตามกฎหมาย (Legal Obligation) |
ข้อมูลเกี่ยวกับการจ่ายเงินให้กับพนักงาน บุคลากร ได้แก่ข้อมูลที่เกี่ยวกับค่าจ้าง และรายละเอียดเกี่ยวกับค่าล่วงเวลา การจ่ายโบนัส ค่าใช้จ่ายใดๆ และผลประโยชน์ตอบแทน | เพื่อจ่ายค่าตอบแทนหรือผลประโยชน์อื่นใดให้แก่พนักงาน | การปฏิบัติตามสัญญา (Contractual Basis) |
ข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับการเข้าถึงระบบสารสนเทศและฐานข้อมูลที่จำเป็นต่อการทำงาน | เพื่ออนุญาตเข้าระบบสารสนเทศและฐานข้อมูลที่จำเป็นต่อการทำงาน รวมถึงการทำสัญญาต่างๆที่เกี่ยวข้อง | การปฏิบัติตามสัญญา (Contractual Basis) |
ข้อมูลเกี่ยวกับการทำงานหรือการปฏิบัติงานของพนักงาน ได้แก่ ข้อมูลที่เกี่ยวกับ การบันทึกบัตรเข้า-ออกจากสถานที่ทำงาน การปรับค่าจ้าง ผลตอบแทน สวัสดิการ การเลื่อนโอนย้ายตำแหน่งงาน ข้อมูลประวัติการมาทำงาน การประเมินศักยภาพในการทำงาน การลาหยุด การขาดงาน การถูกลงโทษทางวินัย |
|
การปฏิบัติตามสัญญา (Contractual Basis) |
ข้อมูลบุคคลที่ติดต่อในกรณีฉุกเฉิน เช่น ชื่อ-นามสกุล เบอร์โทรศัพท์ สถานที่ติดต่อ | เพื่อใช้ในการติดต่อฉุกเฉินกรณี พนักงานเจ็บป่วยหรือประสบอุบัติเหตุที่พนักงานไม่สามารถตัดสินใจเพื่อการรักษาพยาบาลด้วยตนเองได้หรือเพื่อรับสิทธิประโยชน์ต่างๆจากเทนเซ็นต์หรือกรณีที่ไม่สามารถติดต่อพนักงานได้เนื่องจากขาดงานต่อเนื่องหลายวัน | ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate interests) |
ข้อมูลเครือญาติ เช่น ชื่อ นามสกุล บิดา/มาดา/ พี่น้องคู่สมรส และบุตร |
|
ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate interests) การปฏิบัติตามกฎหมาย (Legal Obligation) |
ข้อมูลที่ได้จากกล้องวงจรปิด CCTV |
|
การป้องกัน หรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล (Vital Interests) ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate interests) |
ข้อมูลสำหรับการบันทึกเวลาการทำงาน และการเข้า-ออกสำนักงาน
|
|
ความยินยอม (Consent basis) |
ข้อมูลระบุตัวตนของพนักงาน บุคลากร ตลอดจนประวัติการจ้างงานของเทนเซ็นต์ | เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายต่างๆ และเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องหรือการใช้สิทธิเรียกร้อง หรือการยกขึ้นต่อสู้ซึ่งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือเพื่อดำเนินกระบวนการทางกฎหมาย รวมไปถึงการรายงานหรือเปิดเผยข้อมูลต่อหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ องค์กรอิสระ หน่วยงานที่กำกับดูแล บุคคลหรือหน่วยงานอื่นใดตามที่กฎหมายกำหนด |
ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate interests) การปฏิบัติตามกฎหมาย (Legal Obligation) |
3. ข้อมูลส่วนบุคคลที่เราเก็บรวบรวมและใช้
เก็บข้อมูลโดยการขอหรือสอบถามข้อมูลเหล่านั้นจากท่านโดยตรง หรือเก็บรวบรวมข้อมูลของท่านจากแหล่งอื่น เช่น บริษัทต้นสังกัดของท่าน หน่วยงานราชการหรือหน่วยงานรัฐ บริษัทประกัน สถานพยาบาล หรือแหล่งข้อมูลอื่นๆ ซึ่งเปิดเผยสาธารณะ | ข้อมูลส่วนบุคคลที่จัดเก็บ รวบรวมใช้ หรือประมวลผลตามที่ระบุไว้ในข้อ 2. |
4. ระยะเวลาในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงาน บุคลากร และบุคคลในครอบครัว ดังนี้
ข้อมูลด้านสัญญาจ้าง
|
ตลอดระยะเวลาของสัญญาจ้าง และ10 ปี นับแต่เลิกสัญญาหรือตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดหรือจนกว่าจะพ้นกำหนดอายุความตามกฎหมาย |
ข้อมูลตามทะเบียนลูกจ้าง เช่น ชื่อ-นามสกุล เพศ สัญชาติ วัน เดือน ปี เกิด หรืออายุ ที่อยู่ วันที่เริ่มจ้าง ตำแหน่งหรืองานในหน้าที่ | 10 ปี นับแต่วันสิ้นสุดของการจ้างแต่ละราย |
เอกสารเกี่ยวกับการจ่ายค่าจ้าง ค่าล่วงเวลา ค่าทำงานในวันหยุด และค่าล่วงเวลาในวันหยุดให้แก่ลูกจ้าง | ไม่น้อยกว่า 5 ปี นับแต่วันจ่ายเงินดังกล่าว เป็นหลักฐานกรณีกรมแรงงานเรียกตรวจรายงานค่าจ้าง |
ข้อมูลเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงาน กฎหมายว่าด้วยประกันสังคม | ตลอดระยะเวลาของสัญญาจ้างหรือตามที่กฎหมายกำหนด หรืออนุญาตให้เก็บรักษาไว้นานกว่านั้นหรือจนกว่าจะพ้นกำหนดอายุความตามกฎหมาย |
ข้อมูลเพื่อปฏิบัติตามประมวลรัษฎากร เช่น เอกสารการยื่นรายการและการเสียภาษีอากร | ไม่น้อยกว่า 5 ปี นับแต่วันที่ได้ยื่นแบบแสดงรายการภาษีหรือวันทำรายงาน แล้วแต่กรณี |
ข้อมูลด้านพฤติกรรมทั้งหลาย ซึ่งเกิดจากการที่ต้องปฏิบัติตามสัญญาจ้างและ/หรือต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงานกำหนดไว้ | ตลอดระยะเวลาของสัญญาจ้างหรือตามที่กฎหมายกำหนด หรืออนุญาตให้เก็บรักษาไว้นานกว่านั้นหรือจนกว่าจะพ้นกำหนดอายุความตามกฎหมาย |
ข้อมูลด้านวินัยและการลงโทษซึ่งเกิดจากการที่ต้องปฏิบัติตามข้อตกลงเกี่ยวกับสัญญาจ้างและหรือต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามระเบียบ แนวปฏิบัติ ประกาศ คำสั่ง ข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานและตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงานกำหนด | ตลอดระยะเวลาของสัญญาจ้างและ 10 ปี นับแต่วันที่สัญญาสิ้นสุดลงไม่ว่าด้วยเหตุใด ๆ หรือตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดหรือจนกว่าจะพ้นกำหนดอายุความตามกฎหมาย |
ข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงาน
|
ตลอดระยะเวลาของสัญญาจ้างแรงงานและเก็บไว้อีก 10 ปีนับแต่วันที่สัญญาสิ้นสุดลงไม่ว่าด้วยเหตุใด ๆ |
ข้อมูลด้านศาสนา/ข้อมูลการแพ้อาหาร | จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้ในระยะเวลาเท่าที่ข้อมูลนั้นยังมีความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเท่านั้น หรือจนกว่าท่านจะถอนความยินยอม |
ข้อมูลสุขภาพ ข้อมูลความพิการ ข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับการเจ็บป่วยและรายละเอียดเกี่ยวกับการรักษาและค่าใช้จ่าย ข้อมูลเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล ข้อมูลประกันสุขภาพ ประกันชีวิตข้อมูลเกี่ยวกับอุบัติเหตุหรืออันตราย ข้อมูลประวัติการผ่าตัดที่สำคัญ โรคประจำตัว โรคทางพันธุกรรม ข้อมูลผลการตรวจสุขภาพ (หมู่เลือดและผลการตรวจเลือดต่างๆ) | จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้ในระยะเวลาเท่าที่ข้อมูลนั้นยังมีความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเท่านั้น หรือจนกว่าท่านจะถอนความยินยอม |
ข้อมูลที่เกี่ยวกับอุบัติเหตุ การบาดเจ็บ หรือการตายที่เกี่ยวกับการทำงาน | ตลอดระยะเวลาของสัญญาจ้างแรงงานและเก็บไว้อีก 10 ปีนับแต่วันที่สัญญาสิ้นสุดลงไม่ว่าด้วยเหตุใด ๆ |
ข้อมูลที่ได้จากกล้องวงจรปิด CCTV และข้อมูลอัตลักษณ์สำหรับการสแกนหน้าเข้าสำนักงาน | จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ในระยะเวลาเท่าที่ข้อมูลนั้นยังมีความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ในประมวลผลข้อมูลเท่านั้น |
ข้อมูลสำหรับการบันทึกเวลาการทำงาน และการเข้า-ออกสำนักงาน
|
จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ในระยะเวลาเท่าที่ข้อมูลนั้นยังมีความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ในประมวลผลข้อมูลเท่านั้น |
ทั้งนี้ เมื่อพ้นระยะเวลาดังกล่าวเราจะทำการ
- ลบ ทำลายเมื่อหมดความจำเป็นในการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้น หรือ
- ทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่สามารถระบุตัวตนได้เพื่อการใช้ประโยชน์ด้านอื่น
5. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อบุคคลภายนอก
ในการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในหนังสือแจ้งฉบับนี้ เทนเซ็นต์อาจเปิดเผยข้อมูลของท่านให้แก่บุคคลภายนอกดังต่อไปนี้
- บริษัทในเครือ และบริษัทในกลุ่มที่ตั้งอยู่ในต่างประเทศ โดยให้หมายความรวมถึงผู้บริหาร กรรมการ พนักงาน ลูกจ้าง และ/หรือบุคลากรภายในของบริษัทดังกล่าว เท่าที่เกี่ยวข้องและความจำเป็นเพื่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
- ที่ปรึกษาทางวิชาชีพ เช่น ผู้ตรวจสอบบัญชี ที่ปรึกษากฎหมาย ทนายความ หรือผู้เชี่ยวชาญอื่นใด ทั้งภายในและภายนอกกลุ่มเทนเซ็นต์
- ตัวแทน ผู้รับจ้าง/ผู้รับจ้างช่วง และ/หรือผู้ให้บริการสำหรับการดำเนินงานใดๆ ให้แก่เทนเซ็นต์ในฐานะผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ผู้ให้บริการรับฝากข้อมูล ผู้ให้บริการขนส่ง บริษัทรับจ้างทำกิจกรรมทางการตลาด บริษัทรับดำเนินการจัดกิจกรรมงานอบรม หรืองานสัมมนา เป็นต้น
- ผู้มีความสัมพันธ์ทางธุรกิจ (ในกรณีที่มีความจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญากรณีมีการดำเนินโครงการหรือทำธุรกิจร่วมกัน)
- หน่วยงานราชการ หน่วยงานของรัฐ องค์กรอิสระ หน่วยงานกำกับดูแล หรือหน่วยงานอื่นตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงเจ้าพนักงานซึ่งใช้อำนาจตามกฎหมาย เช่น ศาล พนักงานสอบสวน กรมบังคับคดี สำนักงานประกันสังคม สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และกรมสรรพากร เป็นต้น
- หน่วยงานภายนอกที่บริษัทได้ว่าจ้างตกลงหรือมอบหมายให้เข้าถึงซึ่งข้อมูลส่วนบุคคล ได้แก่ บริษัทประกัน โรงพยาบาล สถานพยาบาล
- ธนาคาร หรือสถาบันการเงิน
- ผู้รับโอนสิทธิหน้าที่และประโยชน์ใดๆ จากเทนเซ็นต์ รวมถึงผู้ที่ได้รับมอบหมายจากผู้รับโอนดังกล่าวให้ดำเนินการแทน เช่น กรณีปรับโครงสร้าง การควบรวมกิจการ การแยก หรือการโอนกิจการ เป็นต้น
- บุคคลภายนอกอื่นๆ เช่น การเปิดเผยข้อมูลผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ของเทนเซ็นต์ การประชาสัมพันธ์ภาพกิจกรรม หรือข่าวสารการทำกิจกรรมของเทนเซ็นต์ไปยังสื่อมวลชนและบุคคลภายนอก เป็นต้น
6. การส่งหรือเปิดเผยข้อมูลไปต่างประเทศ
ในบางกรณี เพื่อประโยชน์หรือความจำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ได้แจ้งไว้ในข้างต้นนั้น เทนเซ็นต์อาจมีความจำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ ซึ่งอาจมีมาตรฐานในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่แตกต่างไปจากประเทศไทย เนื่องจาก เทนเซ็นต์มีบริษัทในกลุ่มซึ่งตั้งอยู่ต่างประเทศ รวมทั้งมีการประกอบธุรกิจหรือมีการทำธุรกรรมต่างๆ กับบริษัทต่างประเทศ ดังนั้น เราอาจจำเป็นที่จะต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับบริษัทเหล่านั้น นอกจากนี้ เทนเซ็นต์อาจมีการเก็บข้อมูลของท่านบนคอมพิวเตอร์เซิร์ฟเวอร์หรือคลาวด์ของผู้ให้บริการที่อยู่ต่างประเทศ และอาจมีการประมวลผลข้อมูลโดยใช้โปรแกรมหรือแอปพลิเคชันสำเร็จรูปของผู้ให้บริการในต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม ในการส่งหรือโอนข้อมูลดังกล่าวไม่ว่ากรณีใดๆ เทนเซ็นต์จะปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
7. สิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่ในความควบคุมของท่านได้มากขึ้น โดยท่านสามารถใช้สิทธิตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 เมื่อบทบัญญัติในส่วนที่เกี่ยวกับสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับ ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
- สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม (เว้นแต่การเพิกถอนความยินยอมจะมีข้อจำกัดโดยกฎหมายหรือสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่าน ในฐานะที่ท่านเป็นเจ้าของข้อมูล)
- สิทธิในการเข้าถึง รับสำเนาและขอให้เปิดเผยที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่เราเก็บรวบรวมอยู่ เว้นแต่กรณีที่เรามีสิทธิปฏิเสธคำขอของท่านตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล หรือกรณีที่คำขอของท่านจะมีผลกระทบที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น
- สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ไม่ถูกต้องหรือไม่ครบถ้วน เพื่อให้มีความถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
-
สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีหนึ่งกรณีใดดังต่อไปนี้
- เมื่ออยู่ในช่วงเวลาที่เราทำการตรวจสอบตามคำร้องขอของท่านให้แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ ถูกต้อง สมบูรณ์และเป็นปัจจุบัน
- ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยโดยมิชอบด้วยกฎหมาย
- เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์เราได้แจ้งไว้ในการเก็บรวบรวม แต่ท่านประสงค์ให้เราเก็บรักษาข้อมูลนั้นต่อไปเพื่อประกอบการใช้สิทธิตามกฎหมายของท่าน
- เมื่ออยู่ในช่วงเวลาที่เรากำลังพิสูจน์ให้ท่านเห็นถึงเหตุอันชอบด้วยกฎหมายในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือตรวจสอบความจำเป็นในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อประโยชน์สาธารณะ อันเนื่องมาจากการที่ท่านได้ใช้สิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
- สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เว้นแต่กรณีที่เราเหตุในการปฏิเสธคำขอของท่านโดยชอบด้วยกฎหมาย
- สิทธิในการขอลบ ทำลายข้อมูลส่วนบุคคล หรือทำให้ไม่สามารถระบุตัวบุคคลผู้ที่เป็นเจ้าของข้อมูลได้
- สิทธิในการให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่ผู้ควบคุมข้อมูลรายอื่นหรือตัวท่านเองด้วยเหตุบางประการได้
- สิทธิในการร้องเรียน หากเทนเซ็นต์ ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
8. การรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูล
เรามีมาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างเหมาะสม ทั้งในเชิงเทคนิคและการบริหารจัดการ เพื่อป้องกันมิให้ข้อมูลสูญหาย หรือมีการเข้าถึง ทำลาย ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต นอกจากนี้ เราได้กำหนดให้มีนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลขึ้นโดยประกาศให้ทราบโดยทั่วทั้งองค์กร พร้อมแนวทางปฏิบัติเพื่อให้เกิดความมั่นคงปลอดภัยในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล โดยธำรงไว้ซึ่งความเป็นความลับ (Confidentiality) ความถูกต้องครบถ้วน (Integrity) และสภาพพร้อมใช้งาน (Availability) ของข้อมูลส่วนบุคคล โดยเราได้จัดให้มีการทบทวนนโยบายดังกล่าวรวมถึงประกาศนี้ในระยะเวลาตามที่เหมาะสม
9. การแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้
นโยบายความเป็นส่วนตัวนี้อาจถูกเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้เป็นครั้งคราว หากมีการเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติมที่ส่งผลกระทบต่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เราจะประกาศให้ท่านทราบผ่านทางเว็บไซต์ และ/หรือแจ้งให้ท่านทราบถึงการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวผ่านอีเมลของท่าน
10. การติดต่อสอบถาม
ในกรณีที่มีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลของท่าน การใช้สิทธิของท่าน หรือมีข้อร้องเรียนใดๆ ท่านสามารถติดต่อเราได้ตามช่องทางต่อไปนี้
ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล: บริษัท เทนเซ็นต์ (ประเทศไทย) จำกัด
สถานที่ติดต่อ:เลขที่ 8 อาคารทีวัน ชั้น 10, 11 และ 12 (ยูนิต 3-5) ซอยสุขุมวิท 40 ถนนสุขุมวิท แขวงพระโขนง เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร 10110
เบอร์ติดต่อ: 02-833-3000
โทรสาร: 02-833-3113
เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
สถานที่ติดต่อ:เลขที่ 8 อาคารทีวัน ชั้น 10, 11 และ 12 (ยูนิต 3-5) ซอยสุขุมวิท 40 ถนนสุขุมวิท แขวงพระโขนง เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร 10110
เบอร์ติดต่อ: 02-833-3000
อีเมล: