TH
TH EN

นโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy)
สำหรับการใช้กล้องโทรทัศน์วงจรปิด

ปรับปรุงเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2566

บริษัท เทนเซ็นต์ (ประเทศไทย) จำกัด (ซึ่งต่อไปนี้เรียกว่า “เทนเซ็นต์” หรือ “เรา”) ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และเพื่อให้ท่านมั่นใจได้ว่าเราจะให้ความคุ้มครองและปฏิบัติต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (ซึ่งต่อไปนี้เรียกว่า “กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”) โดยเทนเซ็นต์ใช้อุปกรณ์กล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ในการเฝ้าดูแลพื้นที่ภายในและภายนอกบริเวณโดยรอบอาคารและสถานที่ของเทนเซ็นต์ และบริษัทในเครือ เพื่อคุ้มคร้องชีวิต ความปลอดภัย สุขภาพ และทรัพย์สินของท่าน เราจึงได้กำหนดนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ขึ้น เพื่อแจ้งให้ท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบรายละเอียดการดำเนินการกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ตลอดจนแจ้งให้ท่านทราบถึงสิทธิในข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด เทนเซ็นต์ ขอแนะนำให้ท่านอ่าน และทำความเข้าใจถึงข้อกำหนดต่างๆ ภายใต้นโยบายฯ ฉบับนี้อย่างละเอียด

บริษัทในเครือบริษัท เทนเซ็นต์ (ประเทศไทย) จำกัด หมายถึงนิติบุคคลใดหรือหลายนิติบุคคล ดังต่อไปนี้

  1. บริษัท เทนเซ็นต์ ออนไลน์ (ประเทศไทย) จำกัด
  2. บริษัท เว็บสเปซ จำกัด
  3. บริษัท เอ็มเว็บ พอร์ทัล (ประเทศไทย) จำกัด
  4. บริษัท เลเวลอัพ ออนไลน์ จำกัด
  5. บริษัท ท้อปสเปซ (ประเทศไทย) จำกัด
  6. บริษัท วีแชท (ประเทศไทย) จำกัด

1. คำนิยาม

คำศัพท์ ความหมาย
ข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรม
ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล เทนเซ็นต์ ซึ่งเป็นผู้มีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล บุคคลซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ได้แก่ ลูกค้า พนักงาน กรรมการ ผู้รับจ้าง ลูกจ้าง ผู้มาเยือน และบุคคลใดๆ ที่เข้ามาหรืออยู่บริเวณโดยรอบอาคารและสถานที่ของเทนเซ็นต์ (เรียกรวมกันว่า “ท่าน”)
บุคคล บุคคลธรรมดา

2. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

ข้อมูลส่วนบุคคลที่จัดเก็บ/ประมวลผล วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ฐานทางกฎหมาย
ภาพนิ่ง, ภาพเคลื่อนไหว, เสียง, ภาพทรัพย์สินของท่าน เช่น กระเป๋า หมวก เครื่องแต่งกาย โทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ เป็นต้น
  1. เพื่อการปกป้องสุขภาพและความปลอดภัยส่วนตัวของท่าน ซึ่งรวมไปถึงทรัพย์สินของท่าน
  2. เพื่อการปกป้อง อาคาร สถานที่ สิ่งอำนวยความสะดวกและทรัพย์สินของเทนเซ็นต์จากความเสียหาย การขัดขวาง การทำลายซึ่งทรัพย์สิน หรืออาชญากรรมอื่น
  3. เพื่อสนับสนุนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการบังคับใช้กฎหมายเพื่อการยับยั้ง ป้องกัน สืบค้น และดำเนินคดีทางกฎหมาย
  4. เพื่อสนับสนุนการสอบสวนหรือกระบวนพิจารณาที่เกี่ยวข้องกับการร้องเรียนหรือการแจ้งเบาะแส
  5. เพื่อสนับสนุนการระงับข้อพิพาทที่เกิดขึ้นในระหว่างกระบวนการทางวินัยหรือกระบวนการร้องทุกข์ให้มีประสิทธิภาพ
  6. สนับสนุนการก่อตั้งสิทธิ โต้แย้งสิทธิ หรือยกสิทธิขึ้นต่อสู้ในการดำเนินคดีทางแพ่ง ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการดำเนินการทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการจ้างงาน

การป้องกัน หรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล (Vital Interests)

ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate interests)

การปฏิบัติตามกฎหมาย (Legal Obligation)

  1. เทนเซ็นต์ อาจเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย โอน และดำเนินการใดๆ รวมถึงแต่ไม่จำกัดอยู่เพียง การบันทึก ถือครอง ปรับเปลี่ยน แก้ไข ทำลาย ลบ กู้คืน รวม ทำสำเนา ส่ง จัดเก็บ แยก ปรับปรุง หรือเพิ่มข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดและข้อมูลส่วนบุคคลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับท่านเพื่อวัตถุประสงค์ในการติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิดดังต่อไปนี้
  2. เทนเซ็นต์ จะติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิดในพื้นที่ที่เห็นได้โดยง่าย ส่วนพื้นที่ที่เทนเซ็นต์ จะไม่ติดตั้งกล้องวงจรปิด ได้แก่ ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า ห้องอาบน้ำ ห้องน้ำ หรือพื้นที่อื่นใดที่กำหนดให้เป็นพื้นที่พักผ่อนสำหรับพนักงาน
  3. กล้องโทรทัศน์วงจรปิดจะทำงานตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน และจะไม่มีการเก็บบันทึกเสียง
  4. เทนเซ็นต์ จะทำการติดตั้งป้ายที่จุดทางเข้าและทางออก และในพื้นที่ที่มีการสอดส่องดูแลโดยกล้องโทรทัศน์วงจรปิด เพื่อให้ท่านทราบว่าในบริเวณนั้นมีกล้องโทรทัศน์วงจรปิด

3. ข้อมูลส่วนบุคคลที่เราเก็บรวบรวมและใช้

แหล่ง / วิธีเก็บรวบรวม รายการข้อมูลส่วนบุคคลที่จัดเก็บ
เก็บข้อมูลจากท่านโดยตรงผ่านกล้องโทรทัศน์วงจรปิด ข้อมูลส่วนบุคคลที่จัดเก็บ รวบรวมใช้ หรือประมวลผลตามที่ระบุไว้ในข้อ 2.

4. ระยะเวลาในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

เทนเซ็นต์จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดไว้เป็นระยะเวลา 30 วัน และ/หรือระยะเวลาเท่าที่จำเป็นเพื่อดำเนินการตามวัตถุประสงค์ในการติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิดที่ระบุไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ อย่างไรก็ตามเทนเซ็นต์ มีความจำเป็นที่จะต้องเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปอีกเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายหรือตามอายุความทางกฎหมาย เพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือเพื่อเหตุอื่นตามนโยบายและข้อกำหนดภายในองค์กรของเทนเซ็นต์

ทั้งนี้ เมื่อพ้นระยะเวลาดังกล่าวเราจะทำการ

  • ลบ ทำลายเมื่อหมดความจำเป็นในการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้น หรือ
  • ทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่สามารถระบุตัวตนได้เพื่อการใช้ประโยชน์ด้านอื่น

5. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อบุคคลภายนอก

ในการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในหนังสือแจ้งฉบับนี้ เทนเซ็นต์อาจเปิดเผยข้อมูลของท่านให้แก่บุคคลภายนอกดังต่อไปนี้

  1. บริษัทในเครือ และบริษัทในกลุ่มที่ตั้งอยู่ในต่างประเทศ โดยให้หมายความรวมถึงผู้บริหาร กรรมการ พนักงาน ลูกจ้าง และ/หรือบุคลากรภายในของบริษัทดังกล่าวเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายเท่าที่เกี่ยวข้องและคามความจำเป็นในการทำตามวัตถุประสงค์ในการติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิด
  2. หน่วยงานราชการ หน่วยงานของรัฐ องค์กรอิสระ หน่วยงานกำกับดูแล หรือหน่วยงานอื่นตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงเจ้าพนักงานซึ่งใช้อำนาจตามกฎหมาย เช่น ศาล อัยการ ตำรวจ เป็นต้น เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย หรือเพื่อปฏิบัติตามคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย
  3. ผู้ให้บริการจากภายนอก เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนที่จำเป็นในการปกป้องคุ้มครองสุขภาพ ความปลอดภัย และทรัพย์สินของท่าน ตลอดจนวัตถุประสงค์อื่นใดที่กล่าวถึงในที่นี้

6. การส่งหรือเปิดเผยข้อมูลไปต่างประเทศ

ในบางกรณี เทนเซ็นต์ อาจเปิดเผย หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดไปยังบริษัทในกลุ่มและ/หรือผู้ให้บริการจากภายนอกที่อยู่ต่างประเทศ เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายในการดำเนินการตามขั้นตอนที่จำเป็นในการปกป้องคุ้มครองสุขภาพ ความปลอดภัย และทรัพย์สินของท่าน ตลอดจนวัตถุประสงค์อื่นที่กล่าวถึงในที่นี้ ทั้งนี้ เทนเซ็นต์ จะดำเนินการตามขั้นตอน และมาตรการต่างๆ เพื่อทำให้มั่นใจว่าการโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านดำเนินไปอย่างปลอดภัยและบุคคลที่รับโอนข้อมูลมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม อย่างไรก็ตาม ในการส่งหรือโอนข้อมูลดังกล่าวไม่ว่ากรณีใดๆ เทนเซ็นต์จะปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562

7. สิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่ในความควบคุมของท่านได้มากขึ้น โดยท่านสามารถใช้สิทธิตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 เมื่อบทบัญญัติในส่วนที่เกี่ยวกับสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับ ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

  1. สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม (เว้นแต่การเพิกถอนความยินยอมจะมีข้อจำกัดโดยกฎหมายหรือสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่าน ในฐานะที่ท่านเป็นเจ้าของข้อมูล)
  2. สิทธิในการเข้าถึง รับสำเนาและขอให้เปิดเผยที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่เราเก็บรวบรวมอยู่ เว้นแต่กรณีที่เรามีสิทธิปฏิเสธคำขอของท่านตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล หรือกรณีที่คำขอของท่านจะมีผลกระทบที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น
  3. สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ไม่ถูกต้องหรือไม่ครบถ้วน เพื่อให้มีความถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
  4. สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีหนึ่งกรณีใดดังต่อไปนี้
    1. เมื่ออยู่ในช่วงเวลาที่เราทำการตรวจสอบตามคำร้องขอของท่านให้แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ ถูกต้อง สมบูรณ์และเป็นปัจจุบัน
    2. ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยโดยมิชอบด้วยกฎหมาย
    3. เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ที่เราได้แจ้งไว้ในการเก็บรวบรวม แต่ท่านประสงค์ให้เราเก็บรักษาข้อมูลนั้นต่อไปเพื่อประกอบการใช้สิทธิตามกฎหมายของท่าน
    4. เมื่ออยู่ในช่วงเวลาที่เรากำลังพิสูจน์ให้ท่านเห็นถึงเหตุอันชอบด้วยกฎหมายในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือตรวจสอบความจำเป็นในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อประโยชน์สาธารณะ อันเนื่องมาจากการที่ท่านได้ใช้สิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
  5. สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เว้นแต่กรณีที่เรามีเหตุในการปฏิเสธคำขอของท่านโดยชอบด้วยกฎหมาย
  6. สิทธิในการขอลบ ทำลายข้อมูลส่วนบุคคล หรือทำให้ไม่สามารถระบุตัวบุคคลผู้ที่เป็นเจ้าของข้อมูลได้
  7. สิทธิในการให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่ผู้ควบคุมข้อมูลรายอื่นหรือตัวท่านเองด้วยเหตุบางประการได้
  8. สิทธิในการร้องเรียน หากเทนเซ็นต์ ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562

8. การรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูล

เรามีมาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างเหมาะสม ทั้งในเชิงเทคนิคและการบริหารจัดการ เพื่อป้องกันมิให้ข้อมูลสูญหาย หรือมีการเข้าถึง ทำลาย ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต นอกจากนี้ เราได้กำหนดให้มีนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลขึ้นโดยประกาศให้ทราบโดยทั่วทั้งองค์กร พร้อมแนวทางปฏิบัติเพื่อให้เกิดความมั่นคงปลอดภัยในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล โดยธำรงไว้ซึ่งความเป็นความลับ (Confidentiality) ความถูกต้องครบถ้วน (Integrity) และสภาพพร้อมใช้งาน (Availability) ของข้อมูลส่วนบุคคล โดยเราได้จัดให้มีการทบทวนนโยบายภายในดังกล่าวรวมถึงนโยบายฉบับนี้ในระยะเวลาตามที่เหมาะสม

9. การแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้

นโยบายความเป็นส่วนตัวนี้อาจถูกเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้เป็นครั้งคราว หากมีการเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติมที่ส่งผลกระทบต่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เราจะประกาศให้ท่านทราบผ่านทางเว็บไซต์ และ/หรือแจ้งให้ท่านทราบถึงการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวผ่านอีเมลของท่าน ทั้งนี้ เทนเซ็นต์ ขอแนะนำให้ท่านตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้เป็นระยะ ๆ

10. การติดต่อสอบถาม

ในกรณีที่มีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลของท่าน การใช้สิทธิของท่าน หรือมีข้อร้องเรียนใดๆ ท่านสามารถติดต่อเราได้ตามช่องทางต่อไปนี้

ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล: บริษัท เทนเซ็นต์ (ประเทศไทย) จำกัด

สถานที่ติดต่อ:
เลขที่ 8 อาคารทีวัน ชั้น 10, 11 และ 12 (ยูนิต 3-5) ซอยสุขุมวิท 40 ถนนสุขุมวิท แขวงพระโขนง เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร 10110
เบอร์ติดต่อ: 02-833-3000
โทรสาร: 02-833-3113

เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

สถานที่ติดต่อ:
เลขที่ 8 อาคารทีวัน ชั้น 10, 11 และ 12 (ยูนิต 3-5) ซอยสุขุมวิท 40 ถนนสุขุมวิท แขวงพระโขนง เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร 10110
เบอร์ติดต่อ: 02-833-3000

อีเมล: